61รายการ

One City Centre (วันซิตี้เซ็นเตอร์) ตั้งอยู่ตรงข้าม Central Embassy (เซ็นทรัล เอ็มบาสซี) และอยู่ติดกับอาคารสำนักงานใหญ่ของธนาคารกรุงศรีอยุธยา เป็นอาคารสำนักงานเกรด A สร้างใหม่ที่สูงที่สุดในประเทศไทย อีกทั้งยังเชื่อมต่อโดยตรงกับสถานี BTS เพลินจิตผ่านสกายวอล์ก ทำให้สามารถเข้าถึงได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องสภาพอากาศ โครงการนี้เป็นการพัฒนาร่วมกันระหว่างกลุ่มมิตซูบิชิ เอสเตท และบริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ Raimon Land Public Company Limited โดยพื้นที่สำนักงานได้ออกแบบด้วย “โครงสร้างไร้เสา” ภายในยูนิต เพื่อให้ได้มาตรฐานคุณภาพระดับโลกอย่างแท้จริง

One City Centre ตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพตรงข้ามกับ Central Embassy เชื่อมต่อโดยตรงกับ BTS เพลินจิต ตัวอาคารเพียบพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทั้งร้านอาหาร, ฟู้ดคอร์ต, และร้านสะดวกซื้อ เพื่อมอบความสะดวกสบายสูงสุดให้แก่ผู้เช่า
อาคารโอบล้อมด้วยย่านที่เงียบสงบและเป็นส่วนตัว ท่ามกลางโรงแรมหรูระดับโลก อย่าง The Okura Prestige Bangkok, Park Hyatt Bangkok, Rosewood Bangkok และสถานทูตมากมาย พร้อมวิวพื้นที่สีเขียวจากทำเนียบเอกอัครราชทูตสหรัฐ ซึ่งเป็นที่นิยมอย่างยิ่งในกลุ่มนักธุรกิจชาวต่างชาติ
อาคาร One City Centre เชื่อมต่อโดยตรงกับ BTS เพลินจิต ทางออกที่ 5 ผ่านทางสกายวอล์ค ทำให้เดินทางเข้าสู่อาคารได้อย่างสะดวกสบายโดยไม่ต้องกังวลเรื่องฝนหรือแดด นอกจากนี้ สกายวอล์คดังกล่าวยังอำนวยความสะดวกในการเชื่อมต่อไปยังห้างสรรพสินค้าชั้นนำ อย่าง Central Embassy และ Central Chidlom
One City Centre คืออาคารมัลติเทนแนนท์แห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ได้รับรองมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพระดับโลก ได้แก่ LEED Gold และ Fitwel 2-Star ตอกย้ำถึงการเป็นอาคารสำนักงานสมัยใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับยุคหลังโควิด โดยเน้นการสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีที่สุดเพื่อสุขภาพและความเป็นอยู่ของผู้ใช้งาน
*LEED (Leadership in Energy and Environmental Design)
LEED คือมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อมของอาคารที่จัดทำโดย USGBC ซึ่งเป็นที่ยอมรับในระดับสากล ปัจจุบัน องค์กรขนาดใหญ่ เช่น Google, Microsoft, และ Goldman Sachs กำหนดให้อาคารสำนักงานต้องมี LEED เท่านั้น
การเลือกอาคารที่ได้รับการรับรอง LEED จึงไม่ใช่แค่การใส่ใจสิ่งแวดล้อม แต่คือการสร้างความน่าเชื่อถือและภาพลักษณ์องค์กรที่ทันสมัย ซึ่งเป็นสิ่งที่บริษัทชั้นนำทั่วโลก รวมถึงบริษัทญี่ปุ่นกำลังให้ความสำคัญอย่างยิ่ง
*Fitwel มาตรฐานรับรองสุขภาวะอาคารจากรัฐบาลสหรัฐ
มาตรฐาน Fitwel ถูกกำหนดขึ้นในปี 2017 โดยความร่วมมือระหว่าง ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐฯ (CDC) และ สำนักงานบริการทั่วไปของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ (GSA) มาตรฐานนี้ใช้เพื่อประเมิน “สุขภาวะของผู้ใช้อาคาร” โดยครอบคลุมเกณฑ์การประเมินที่สำคัญทั้ง 12 ด้าน
อาคารนำเสนอพื้นที่สำนักงานที่ปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการ ตั้งแต่ยูนิตเล็กเริ่มต้นที่ 125 ตารางเมตร ไปจนถึงการเช่าหลายชั้น โดยพื้นที่สำนักงานมาตรฐานแต่ละชั้นมีขนาดกว้างถึง 1,300 ตารางเมตร จุดเด่นที่สำคัญคือการออกแบบ “ไร้เสากลาง” ภายในพื้นที่เช่า ซึ่งช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นในการจัดผังสำนักงานและใช้พื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
ความสูงเพดาน: ให้ความรู้สึกโปร่งโล่งด้วยความสูง 3 เมตร แบบมีฝ้า และสูงถึง 4.5 เมตร แบบเปิดโล่ง
แสงสว่าง: ติดตั้งกระจกบานใหญ่แบบ Floor-to-Ceiling (จากพื้นถึงเพดาน) ที่ช่วยให้ได้รับแสงธรรมชาติอย่างเต็มที่ และเปิดรับวิวทิวทัศน์ภายนอกได้อย่างชัดเจน
พื้นที่ส่วนกลางติดตั้งระบบล้ำสมัยเพื่อสุขอนามัยและความสะดวกสบาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ระบบควบคุมการเข้าอาคารแบบไร้สัมผัส และ ลิฟต์ไร้สัมผัส (จาก Mitsubishi Electric)
นอกจากนี้ ยังมี ระบบไฟอัจฉริยะ (ปรับแสงอัตโนมัติ) จาก Hitachi ที่ช่วยประหยัดพลังงาน ทำให้ One City Centre คาดว่าจะเป็นอาคารสำนักงานที่ตอบโจทย์การใช้งานในยุคปัจจุบันและอนาคต

มีการติดตั้งระบบ สแกนใบหน้า (Face Scan) และการเข้าถึงด้วย QR Code เพื่อให้มั่นใจได้ว่าการเข้า-ออกอาคารมีความปลอดภัยและรวดเร็ว

ทิศเหนือ: อาคารถูกออกแบบให้ เซ็ตแบ็ก (Set back) ห่างจากถนนสุขุมวิทกว่า 100 เมตร และมี สวนสาธารณะสีเขียว จัดไว้ด้านหน้า จึงให้ความรู้สึกโปร่งโล่งและไม่อึดอัด
ด้วยความสูงที่โดดเด่น ทำให้ชั้นสูงๆภายในอาคาร มีทัศนียภาพที่เปิดกว้างและไม่มีอาคารอื่นมาบดบัง

เพื่อรองรับความต้องการที่หลากหลาย อาคารได้เตรียม โคเวิร์กกิ้งสเปซ และ ห้องประชุมส่วนกลาง ไว้ให้บริการแบบให้เช่ารายชั่วโมง (On-demand)
สิ่งอำนวยความสะดวกเหล่านี้สนับสนุนแนวคิดการทำงานแบบ Hybrid ทำให้องค์กรสามารถบริหารจัดการพื้นที่สำนักงานหลักได้อย่างเหมาะสม ลดการจัดสรรพื้นที่สำหรับห้องประชุมที่ไม่จำเป็น และเปลี่ยนเป็นพื้นที่ทำงานที่ยืดหยุ่นและคุ้มค่ากว่า
One City Centre ได้รวบรวมร้านอาหารและคาเฟ่หลากหลายประเภทไว้ที่ ชั้น 1 และ ชั้น 2 เพื่ออำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวันของผู้ใช้งาน นอกจากนี้ อาคารยังเป็นจุดหมายปลายทางด้านไลฟ์สไตล์ ด้วย ร้านอาหารสกายวิว ชั้น 58 ที่มอบประสบการณ์การรับประทานอาหารพร้อมทิวทัศน์ใจกลางกรุงเทพแบบพาโนรามา และ รูฟท็อปบาร์ ชั้น 61 ซึ่งคาดว่าจะก้าวขึ้นมาเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่สำหรับการสังสรรค์ในกรุงเทพ


ด้วยการพัฒนาและบริหารจัดการโดยความเชี่ยวชาญของ กลุ่ม Mitsubishi Estate อย่างเต็มที่ ทำให้ OCC เป็นอาคารระดับ Flagship ที่ได้มาตรฐานสากล นอกจากล็อบบี้ที่กว้างขวางแล้ว ความหรูหราของอาคารสำนักงานเกรด A ยังสะท้อนผ่านทุกพื้นที่ โดยเฉพาะ โถงลิฟต์และทางเดินส่วนกลาง ของแต่ละชั้นที่ปูด้วยกระเบื้องทั้งหมด


มีลิฟต์สำหรับผู้พิการโดยเฉพาะ


ภายในอาคารมีตัวเลือกอาหารญี่ปุ่นที่หลากหลาย ทั้งร้าน โซบะ, ราเมน, และ ซูชิ ซึ่งเป็นที่นิยมในกลุ่มนักธุรกิจชาวญี่ปุ่นที่มาทำงาน นอกจากนี้ ยังมีร้านสะดวกซื้อ Lawson ที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตประจำวัน


คาเฟ่ที่กำลังเป็นกระแสในไทยอย่าง「Arabica Coffee」ก็เข้ามาเปิดให้บริการ
Arabica Coffee เป็นแบรนด์กาแฟจากเกียวโตที่ขยายสู่ทั่วโลก โดยสาขาแรกในไทยเปิดที่ ICONSIAM ชั้น 1

ที่ ชั้น 1 ของอาคารมี ฟู้ดคอร์ต ให้บริการอาหารหลากหลายในราคาที่เหมาะสม โดยในช่วงพักกลางวัน ฟู้ดคอร์ตแห่งนี้จะเต็มไปด้วยพนักงานออฟฟิศที่เข้ามาใช้บริการ

และทั้งหมดนี้คือภาพรวมของอาคาร One City Center!
หากมีคำถามเกี่ยวกับการหาสำนักงานในกรุงเทพฯ หรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับอสังหาฯ ที่ลงประกาศในเว็บไซต์ของเรา ติดต่อเราได้เลยค่ะ
Bhiraj Tower at EmQuartier (ภิรัช ทาวเวอร์ แอท เอ็มควอเทียร์) ออฟฟิศติด BTS พร้อมพงษ์และศูนย์การค้า EmQuartier