58รายการ
แม้แต่ในพื้นที่ที่เรียกกันว่า “โซนตอนเหนือของกรุงเทพฯ” ตั้งแต่สถานี BTS สยามไปจนถึงสถานีหมอชิต ก็มีการก่อสร้างอาคารสำนักงานแห่งใหม่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะบริเวณรอบ ๆ สถานี BTS และท่ามกลางอาคารเหล่านั้น สิ่งที่โดดเด่นสะดุดตาด้วยรูปลักษณ์ที่เป็นเอกลักษณ์ก็คือ “The Rice (เดอะ ไรซ์)” ซึ่งวันนี้เราจะพาทุกท่านไปรู้จักกัน!
The Rice เป็นอาคารสำนักงานที่ตั้งอยู่บริเวณสี่แยกใกล้ BTS สะพานควาย
ตามชื่อของอาคาร ดีไซน์ภายนอกถูกออกแบบโดยใช้แรงบันดาลใจจาก “ข้าว” ทำให้ตัวอาคารมีรูปลักษณ์ที่โดดเด่นและไม่เหมือนใคร
อาคารนี้ได้รับการรับรองมาตรฐานสากล LEED Gold ซึ่งเป็นหลักประกันด้านคุณภาพของอาคาร
คลิกที่นี่เพื่ออ่านบทความเกี่ยวกับ LEED
นอกจากนี้ยังได้รับรางวัล Asia Pacific Property Awards ปี 2023–2024
รางวัลนี้จัดขึ้นโดยบริษัท IPM และเป็นเวทีรางวัลด้านสถาปัตยกรรมระดับนานาชาติ โดยมีคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญกว่า 80 คนทำการพิจารณาในสาขาต่าง ๆ เช่น “สถาปัตยกรรม” “การพัฒนา” “การออกแบบตกแต่งภายใน” “อสังหาริมทรัพย์” และ “ภูมิภาค”
พื้นที่รอบ ๆ BTS สะพานควาย อาจจะไม่คุ้นเคยนักสำหรับชาวญี่ปุ่น แต่มีข้อดีคืออยู่ใกล้สนามบินดอนเมืองและเขตอุตสาหกรรมทางอยุธยา
ตัวอาคารตั้งอยู่ระหว่างทางด่วนดอนเมืองโทลล์เวย์และทางด่วนศรีรัช ทำให้เดินทางเชื่อมต่อทางด่วนได้สะดวก
นอกจากนี้ พื้นที่ทางเหนือของสถานีสยามยังเป็นที่ตั้งสำนักงานของ “Ajinomoto” “Fujifilm” และ “Yakult” อีกด้วย จึงเป็นย่านที่มีบริษัทญี่ปุ่นจำนวนมากที่ดำเนินธุรกิจแบบฝังรากในท้องถิ่นไทย
ใกล้ “สถานีอารีย์” ยังเต็มไปด้วยคาเฟ่และร้านค้าที่ได้รับความนิยมในหมู่วัยรุ่น และที่ “สถานีหมอชิต” ก็มีการจัดตลาดนัดสุดสัปดาห์ จึงถือเป็นย่านที่อยู่อาศัยยอดนิยมสำหรับคนไทยเช่นกัน
ต่อไป มาดูวิธีการเดินทางจาก BTS สะพานควายไปยังอาคาร พร้อมภาพประกอบกันเลย!
ให้ออกทางออกที่ 1 ของสถานีสะพานควาย แล้วเดินไปทางทิศใต้ (ทิศที่มี Big C ตั้งอยู่)
ระหว่างทางจะพบแผงลอยขายอาหารและร้านอาหารท้องถิ่น บรรยากาศแบบย่านชุมชนดั้งเดิม และยังเห็นคอนโดมิเนียมใหม่ ๆ หลายแห่ง
ฝั่งตรงข้ามถนนมีซูเปอร์มาร์เก็ต Big C มองเห็นได้
ใช้เวลาเดินประมาณ 7 นาที ก็จะถึง “The Rice” ด้วยดีไซน์อาคารที่โดดเด่น ทำให้มองเห็นได้ชัดเจนตั้งแต่ไกล
มีเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์พร้อมเจ้าหน้าที่และประตูรักษาความปลอดภัย
เมื่อแสดงบัตรประชาชนที่เคาน์เตอร์ จะได้รับบัตรผ่านเข้าอาคาร
นอกจากนี้ยังมีระบบลงทะเบียนผู้มาติดต่อแบบ Self Check-in (สแกน QR Code) อีกด้วย
ลิฟต์จะหยุดเฉพาะชั้นที่ได้ลงทะเบียนบริษัทผู้มาติดต่อไว้เท่านั้น ทำให้มั่นใจได้ว่ามาตรฐานความปลอดภัยสูง
สำหรับพนักงานของบริษัทที่เช่าพื้นที่ สามารถเข้าออกด้วยระบบจดจำใบหน้า (Face Recognition) ได้
ในล็อบบี้ยังมีการตกแต่งด้วยประติมากรรมที่ได้แรงบันดาลใจจาก “ข้าว” ทำให้คอนเซ็ปต์ของอาคารมีเอกภาพ
พื้นที่สำนักงานอยู่ตั้งแต่ชั้น 5 ถึงชั้น 26
– โซนล่าง: ชั้น 5–8
– โซนกลาง: ชั้น 9–23
– โซนบน: ชั้น 24–26
ลิฟต์แยกเป็น 2 กลุ่ม คือ โซนล่าง/กลาง และโซนบน
มีลิฟต์โซนล่าง/กลาง 4 ตัว และโซนบน 2 ตัว รวมทั้งหมด 8 ตัว
ซึ่งถือว่าเพียงพอ ทำให้แทบไม่มีเวลารอคอย
เช่นเดียวกับรูปลักษณ์ของอาคาร พื้นที่สำนักงานก็มีรูปทรงที่ค่อนข้างแปลกใหม่
เหมาะสำหรับบริษัทที่กำลังมองหาสำนักงานที่มีเอกลักษณ์และบรรยากาศสร้างสรรค์ แตกต่างจากอาคารอื่น ๆ
อย่างไรก็ตาม ด้วยรูปแบบพื้นที่ลักษณะนี้ อาจทำให้เกิด Dead Space ขึ้นได้หากวาง Layout ไม่เหมาะสม จึงควรวางแผนให้ดี
ความสูงเพดานประมาณ 3 เมตร ทำให้รู้สึกโปร่งโล่ง
หน้าต่างก็สูง ทำให้พื้นที่ดูกว้างขวางและสว่าง
เหมาะสำหรับบริษัทขนาดเล็ก มีพนักงานไม่เกิน 50 คน
ราคา: เริ่มต้น 550 บาท/ตร.ม.
ขนาดพื้นที่: 100–174 ตร.ม.
เหมาะสำหรับบริษัทขนาดกลาง มีพนักงานประมาณ 30–50 คน
ราคา: เริ่มต้น 750 บาท/ตร.ม.
ขนาดพื้นที่: 200–300 ตร.ม.
สำนักงานโซนบน
เหมาะสำหรับบริษัทขนาดใหญ่ มีพนักงานมากกว่า 50 คน
ราคา: เริ่มต้น 800 บาท/ตร.ม.
ขนาดพื้นที่: 300–500 ตร.ม.
ชั้น 26 (ชั้นบนสุด) เปิดให้เช่าแบบเหมาทั้งชั้นเท่านั้น
(พื้นที่มากกว่า 600 ตร.ม. ราคา 1,100 บาท/㎡)
ด้วยหน้าต่างที่มีมุมเอียงอันเป็นเอกลักษณ์ ทำให้พื้นที่นี้โดดเด่นและโปร่งโล่ง
เหมาะสำหรับใช้เป็นโชว์รูมสินค้า หรือพื้นที่สร้างแบรนด์ของบริษัท
– ระบบไฟ LED / ไฟอัตโนมัติ
– ระบบกรองอากาศและ PM2.5
– กระจกสองชั้นเพื่อลดความร้อน
จากยูนิตฝั่งตะวันออก สามารถมองเห็นวิวเมืองเก่าของกรุงเทพฯ ได้อย่างเปิดโล่ง เพราะไม่มีตึกสูงมาบัง
แต่สำหรับยูนิตฝั่งตะวันตก บางส่วนอาจหันไปทางคอนโดมิเนียม จึงควรพิจารณา
โถงทางเดินปูด้วยกระเบื้องลายหิน ดูสะอาดและหรูหรา
มีความกว้างเพียงพอสำหรับผู้ใหญ่ 2 คนเดินเคียงข้างกันได้สบาย
ห้องน้ำสะอาดและได้รับการดูแลอย่างดี
ให้ความรู้สึกหรูหราเหมือนอยู่ในโรงแรม
มีห้องแพนทรีส่วนกลางให้ใช้งานเช่นกัน
พื้นที่สูบบุหรี่ตั้งอยู่ด้านนอกชั้น 1 ใกล้กับที่จอดรถ
อนาคตมีแผนที่จะย้ายไปยังพื้นที่ที่กว้างขึ้น
ชั้น 4 เป็นฟู้ดคอร์ท ที่สามารถเพลิดเพลินกับอาหารราคาย่อมเยา ส่วนใหญ่เป็นอาหารไทย
ณ เวลาที่เข้ามารีวิว มีร้านค้าที่เปิดดำเนินการอยู่ประมาณ 10 ร้าน
แม้ในวันที่ฝนตก ผู้เช่าก็ไม่จำเป็นต้องออกไปทานอาหารข้างนอก ทำให้สะดวกสบายมาก
ณ เวลาที่เข้ามารีวิว พื้นที่รีเทลหลัก ๆ เป็นคลินิกเสริมความงามและร้านทำผม
ปัจจุบันกำลังเจรจากับ Lawson โดยมีแผนจะเปิดให้บริการในไตรมาสแรกของปี 2025
นอกจากนี้ยังมีคาเฟ่และตู้ขายสินค้าอัตโนมัติของ Big C ติดตั้งไว้
ทำให้สะดวกต่อการซื้ออาหารว่างหรือของใช้เล็กน้อย
– ชั้น 12A เป็นพื้นที่โคเวิร์กกิ้งสเปซ ดำเนินการโดย Regus
– ชั้น 1 มีห้องประชุมให้เช่า มีกำหนดเปิดวันที่ 20 ตุลาคม 2024
– ชั้น 8 มีพื้นที่ดาดฟ้า ผู้เช่าชั้น 8 สามารถเข้าใช้ได้โดยตรง ส่วนผู้เช่าชั้นอื่น ๆ ใช้ลิฟต์ของที่จอดรถเพื่อเข้าไป
– พื้นที่ดาดฟ้าใช้จัดอีเวนต์หรือปาร์ตี้ส่วนตัวได้ ฟรีค่าเช่า (ผู้เช่าออกค่าไฟเอง)
– จำนวนที่จอดรถ: 400 คัน
– ฟรี 1 ที่จอดต่อสัญญาเช่า 100 ตร.ม.
– มีจุดชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (EV) จำนวน 10 จุด
จบการแนะนำอาคาร The Rice (เดอะ ไรซ์) ไว้เพียงเท่านี้!
หากมีคำถามเกี่ยวกับการหาสำนักงานในกรุงเทพฯ หรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับอสังหาฯ ที่ลงประกาศในเว็บไซต์ของเรา ติดต่อเราได้เลยค่ะ
อาคารสำนักงาน "Bhiraj Tower at EmQuartier" เชื่อมตรงกับสถานีรถไฟฟ้า BTS พร้อมพงษ์ และตั้งอยู่ติดกับศูนย์การค้า "เอ็มควอเทียร์"
สำนักงานให้เช่าใกล้สถานีอโศก กรุงเทพฯ เดินเพียง 5 นาที ค่าเช่าราคาย่อมเยา คุ้มค่าในด้านต้นทุน “Vasu 1 Building (เดิม: Glas Haus Building)”
อาคารสำนักงานเกรด A “208 Building Wireless Road” ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองแต่โอบล้อมด้วยความเขียวขจีและความเงียบสงบ