61รายการ

แม้แต่ในพื้นที่ที่เรียกกันว่า “โซนตอนเหนือของกรุงเทพฯ” ตั้งแต่สถานี BTS สยามไปจนถึงสถานีหมอชิต ก็มีการก่อสร้างอาคารสำนักงานแห่งใหม่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะบริเวณรอบ ๆ สถานี BTS และท่ามกลางอาคารเหล่านั้น สิ่งที่โดดเด่นสะดุดตาด้วยรูปลักษณ์ที่เป็นเอกลักษณ์ก็คือ “The Rice (เดอะ ไรซ์)” ซึ่งวันนี้เราจะพาทุกท่านไปรู้จักกัน!
The Rice เป็นอาคารสำนักงานที่ตั้งอยู่บริเวณสี่แยกใกล้ BTS สะพานควาย
ตามชื่อของอาคาร ดีไซน์ภายนอกถูกออกแบบโดยใช้แรงบันดาลใจจาก “เมล็ดข้าว” ทำให้ตัวอาคารมีรูปลักษณ์ที่โดดเด่นและไม่เหมือนใคร
อาคารนี้ได้รับการรับรองมาตรฐานสากล LEED Gold ซึ่งเป็นหลักประกันด้านคุณภาพของอาคาร
คลิกที่นี่เพื่ออ่านบทความเกี่ยวกับ LEED
นอกจากนี้ อาคารยังได้รับรางวัล Asia Pacific Property Awards 2023–2024 ซึ่งจัดโดยบริษัท IPM ถือเป็นเวทีรางวัลด้านสถาปัตยกรรมระดับนานาชาติ โดยมีคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญกว่า 80 คนร่วมพิจารณาครอบคลุมหลากหลายสาขา อาทิ “สถาปัตยกรรม” “การพัฒนา” “การออกแบบตกแต่งภายใน” “อสังหาริมทรัพย์” และ “ภูมิภาค”
พื้นที่รอบ ๆ BTS สะพานควาย อาจจะไม่ใช่ย่านคุ้นเคยสำหรับชาวญี่ปุ่น แต่ข้อดีคืออยู่ใกล้สนามบินดอนเมืองและเขตอุตสาหกรรมทางอยุธยา ตัวอาคารตั้งอยู่ระหว่างดอนเมืองโทลล์เวย์และทางด่วนศรีรัช ทำให้เดินทางเชื่อมต่อทางด่วนได้สะดวก
นอกจากนี้ พื้นที่ทางเหนือของสถานีสยามยังเป็นที่ตั้งสำนักงานชื่อดังอย่าง “Ajinomoto” “Fujifilm” และ “Yakult” อีกด้วย จึงนับเป็นทำเลที่เหมาะสำหรับบริษัทญี่ปุ่นที่ต้องการเจาะตลาดผู้บริโภคชาวไทย
ใกล้ BTS อารีย์ ยังเต็มไปด้วยคาเฟ่และร้านค้าที่ได้รับความนิยมในหมู่วัยรุ่น และที่ BTS หมอชิต ก็มีการจัดตลาดนัดสุดสัปดาห์ จึงถือเป็นย่านที่อยู่อาศัยยอดนิยมสำหรับคนไทยเช่นกัน
ต่อไป มาดูวิธีการเดินทางจาก BTS สะพานควายไปยังอาคาร พร้อมภาพประกอบกันเลย!
จากทางออกที่ 1 ของสถานีสะพานควาย แล้วเดินไปทางทิศใต้ (ตามทางที่มี Big C ตั้งอยู่)
ระหว่างทางเดิน จะพบแผงลอยขายอาหารและร้านอาหารท้องถิ่น ให้บรรยากาศย่านชุมชนดั้งเดิม และรายล้อมด้วยคอนโดมิเนียมใหม่ ๆ หลายแห่ง
ฝั่งตรงข้ามถนนมีซูเปอร์มาร์เก็ตอย่าง Big C ที่สามารถมองเห็นได้
ใช้เวลาเดินประมาณ 7 นาที ก็จะถึง “The Rice” อาคารดีไซน์โดดเด่นที่สามารถมองเห็นได้ชัดเจนตั้งแต่ระยะไกล
มีเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์พร้อมเจ้าหน้าที่และประตูรักษาความปลอดภัย
เมื่อแสดงบัตรประชาชนที่เคาน์เตอร์ ก็จะได้รับบัตรผ่านเข้าอาคาร
นอกจากนี้ยังมีระบบลงทะเบียนผู้มาติดต่อแบบ Self Check-in ที่สามารถนำ QR Code ไปสแกนได้อีกด้วย
ลิฟต์จะหยุดเฉพาะชั้นที่ผู้ติดต่อได้ลงทะเบียนบริษัทไว้เท่านั้น ทำให้มั่นใจได้ถึงมาตรฐานความปลอดภัยขั้นสูง
สำหรับผู้เช่า สามารถใช้ระบบจดจำใบหน้า (Face Recognition) เพื่อเข้า-ออกประตูได้
ภายในล็อบบี้มีการตกแต่งด้วยประติมากรรมที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก “เมล็ดข้าว” สะท้อนคอนเซ็ปต์อาคารที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวอย่างชัดเจน
พื้นที่สำนักงานอยู่ตั้งแต่ชั้น 5-26 แบ่งออกเป็น:
– โซนล่าง: ชั้น 5–8
– โซนกลาง: ชั้น 9–23
– โซนบน: ชั้น 24–26
ลิฟต์ถูกแบ่งการใช้งานออกเป็น 2 โซน ได้แก่ โซนล่าง-กลาง และโซนบน
มีลิฟต์โซนล่าง-กลาง ให้บริการ 4 ตัว และโซนบน 4 ตัว รวมทั้งหมด 8 ตัว
ซึ่งถือว่าเพียงพอต่อผู้ใช้งาน ทำให้แทบไม่เสียเวลารอ
เช่นเดียวกับลักษณะของอาคาร พื้นที่สำนักงานก็มีรูปทรงที่ค่อนข้างแปลกใหม่
เหมาะสำหรับบริษัทที่กำลังมองหาสำนักงานที่มีเอกลักษณ์และความสร้างสรรค์ ซึ่งแตกต่างจากอาคารอื่น ๆ
ผู้เช่าควรพิจารณาการออกแบบพื้นที่ใช้งานอย่างรอบคอบ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดและลดการเสียพื้นที่โดยเปล่าประโยชน์
ความสูงเพดานประมาณ 3 เมตร ทำให้รู้สึกโปร่งโล่ง
หน้าต่างกว้างขวาง ทำให้พื้นที่ดูสว่างมากขึ้น
สำนักงานโซนล่าง
เหมาะสำหรับบริษัทขนาดเล็ก ที่มีพนักงานไม่เกิน 50 คน
ราคา: เริ่มต้น 550 บาท/ตร.ม.
ขนาดพื้นที่: 100–174 ตร.ม.
สำนักงานโซนกลาง
เหมาะสำหรับบริษัทขนาดกลาง ที่มีพนักงานประมาณ 30–50 คน
ราคา: เริ่มต้น 750 บาท/ตร.ม.
ขนาดพื้นที่: 200–300 ตร.ม.
สำนักงานโซนบน
เหมาะสำหรับบริษัทขนาดใหญ่ ที่มีพนักงานมากกว่า 50 คน
ราคา: เริ่มต้น 800 บาท/ตร.ม.
ขนาดพื้นที่: 300–500 ตร.ม.
ชั้น 26 เปิดให้เช่าแบบเหมาทั้งชั้นเท่านั้น มีพื้นที่มากกว่า 600 ตร.ม. และ ราคาเช่าเริ่มต้น 1,100 บาท/ตารางเมตร
ด้วยหน้าต่างที่มีมุมเอียงเป็นเอกลักษณ์ ทำให้พื้นที่นี้โดดเด่นและโปร่งโล่ง
เหมาะสำหรับใช้เป็นโชว์รูมสินค้า หรือพื้นที่สร้างแบรนด์ของบริษัท
– ระบบไฟ LED / ไฟอัตโนมัติ
– ระบบกรองอากาศที่มีคุณสมบัติกรอง PM2.5
– กระจกสองชั้นเพื่อลดความร้อน
จากยูนิตฝั่งตะวันออก สามารถมองเห็นวิวเมืองเก่าของกรุงเทพได้อย่างเปิดโล่งโดยไม่มีอาคารสูงบดบัง
ส่วนยูนิตฝั่งตะวันตก บางส่วนอาจหันไปทางคอนโดมิเนียม จึงควรพิจารณาเมื่อเลือกตำแหน่ง


โถงทางเดินปูด้วยกระเบื้องลายหิน ให้ความรู้สึกสะอาดและหรูหรา
กว้างขวางเพียงพอสำหรับการขนย้ายอุปกรณ์

ห้องน้ำสะอาดและได้รับการดูแลอย่างดี
ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในโรงแรม
มีห้องแพนทรีส่วนกลางให้ใช้งาน
พื้นที่สูบบุหรี่ตั้งอยู่ด้านนอกชั้น 1 ใกล้กับที่จอดรถ
ซึ่งอนาคตมีแผนที่จะขยายพื้นที่ให้กว้างขึ้น

ชั้น 4 มีศูนย์อาหารให้บริการ ผู้เช่าสามารถเลือกทานอาหารราคาย่อมเยา ส่วนใหญ่เป็นอาหารไทย
ณ วันที่ทำการเก็บภาพ มีร้านเปิดให้บริการประมาณ 10 ร้าน แม้ในวันที่ฝนตก ผู้เช่าก็ไม่จำเป็นต้องออกไปทานอาหารข้างนอก
ณ เวลาที่เก็บภาพ พื้นที่ร้านค้าหลักเป็นคลินิกเสริมความงามและร้านทำผม ขณะนี้อาคารกำลังอยู่ระหว่างเจรจากับร้านสะดวกซื้อ Lawson ซึ่งมีแผนจะเปิดให้บริการในไตรมาสแรกของปี 2025
นอกจากนี้ยังมีคาเฟ่และตู้ขายสินค้าอัตโนมัติของ Big C ติดตั้งไว้
ทำให้สะดวกต่อการซื้ออาหารว่างหรือของใช้เล็กน้อย
– ชั้น 12A เป็นพื้นที่ Co-working space ที่บริหารโดย Regus
– ชั้น 1 มีห้องประชุมให้เช่า ซึ่งมีกำหนดเปิดตั้งแต่ วันที่ 20 ตุลาคม 2024
– ชั้น 8 มีพื้นที่ดาดฟ้า ซึ่งผู้เช่าชั้น 8 สามารถเข้าใช้งานได้โดยตรง ผู้เช่าชั้นอื่นๆ สามารถเข้าใช้บริการได้ผ่านลิฟต์จอดรถ
– พื้นที่ดาดฟ้า สามารถใช้จัดอีเวนต์หรือปาร์ตี้ส่วนตัวได้โดยไม่มีค่าบริการ (โดยผู้เช่าเป็นผู้รับผิดชอบค่าไฟฟ้า)
– พื้นที่จอดรถรองรับได้: 400 คัน
– ผู้เช่าได้รับสิทธิ์จอดรถฟรีต่อพื้นที่เช่า 100 ตารางเมตร
– มีจุดชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ให้บริการจำนวน 10 จุด
และทั้งหมดนี้ คือภาพรวมของอาคาร The Rice (เดอะ ไรซ์)!
หากมีคำถามเกี่ยวกับการหาสำนักงานในกรุงเทพฯ หรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับอสังหาฯ ที่ลงประกาศในเว็บไซต์ของเรา ติดต่อเราได้เลยค่ะ
Bhiraj Tower at EmQuartier (ภิรัช ทาวเวอร์ แอท เอ็มควอเทียร์) ออฟฟิศติด BTS พร้อมพงษ์และศูนย์การค้า EmQuartier